อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองซาอุดีอาระเบีย ที่ตอนนี้ลี้ภัยในต่างประเทศ ยื่นฟ้องร้องเจ้าชายโมฮัมเหม็ด มกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ กล่าวหาว่า พยายามส่งทีมสังหารมากำจัดเขาถึงที่แคนาดา
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ดร. ซาอัด อัล จาบรี อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยข่าวกรองแห่งประเทศซาอุดีอาระเบีย ผู้ลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน ยื่นเอกสารต่อศาลกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อฟ้องร้อง เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ โดยกล่าวหาว่า เจ้าชายโมฮัมเหม็ดส่งทีมสังหารไปแคนาดาเพื่อกำจัดเขา เพียงไม่กี่วันหลังจากนักข่าว จามาล คาชอกกี ถูกฆาตกรรมด้วยฝีมือสมาชิกทีมสังหารเดียวกันนี้
ทั้งนี้ ดร.อัล จาบรี เคยเป็นมือขวาของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ พระภารดร (ลูกพี่ลูกน้อง) ของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด ดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ ก่อนที่คิงซัลมาน จะปลดเขาแล้วแต่งตั้งเจ้าชายโมฮัมเหม็ดขึ้นแทน หลังจากนั้น เจ้าชายบิน นาเยฟ ก็ถูกกักบริเวณในบ้าน และถูกจับกุมตัวเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่นายอัล จาบรี ตัดสินใจเดินทางหนีไปตุรกีในช่วงกลางปี 2560 ทิ้งลูก 2 คนคือ ซาราห์ กับ โอมาร์ เอาไว้ในซาอุดีอาระเบีย และทั้งสองคนถูกห้ามเดินทางทันที
หลังจากนั้น ตามที่ระบุในเอกสารฟ้องร้องความยาว 106 หน้าของดร.อัล จาบรี ซาอุดีอาระเบียก็ออกหมายจับตัวเขา, เรียกร้องให้สำนักงานตำรวจสากล เพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของเขา และพยายามกดดันให้ตุรกีส่งตัวเขากลับซาอุฯ ด้วย
ดร.อัล จาบรี เผยอีกว่า เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมปีนี้ โอมาร์ กับซาราห์ ซึ่งตอนนี้มีอายุ 22 ปีกับ 20 ปีตามลำดับ ถูกลับพาตัวไปจากบ้านแล้วไม่มีข่าวอีกเลย ในเดือนเดียวกัน ทางการซาอุฯ ก็ระงับเอกสารอนุญาตเดินทางของทั้งคู่ ญาติคนหนึ่งของเขาก็ถูกลักพาตัวจากถนนสายหนึ่งในนครดูไบ ก่อนจะพากลับไปซาอุฯ และทรมาน ซึ่งญาติรายนี้อ้างว่า ผู้ที่ทรมานเขาบอกอย่างชัดเจนว่า เขาถูกลงโทษแทนนายอัล จาบรี
เอกสารฟ้องร้องระบุด้วยว่า 9 เดือนก่อนหน้านี้ คาลิด ลูกชายของ ดร.อัล จาบรี ได้รับคำเตือนจากเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) เรื่องภัยคุกคามที่มีต่อชีวิตของนายอัล จาบรี กับครอบครัวของเขา จากนั้น นายคาลิดเดินทางไปยังเมืองบอสตัน และที่สนามบินโลแกน เขาก็ถูกเชิญตัวไปพบเจ้าหน้าที่เอฟบีไอ 2 นาย ซึ่งบอกเขาเกี่ยวกับแผนการล่าตัว ดร.อัล จาบรี กับครอบครัวที่อยู่ในสหรัฐฯ และขอให้พวกเขาระวังตัว
ด้านที่ปรึกษาของ ดร.อัล จาบรี ระบุในเอกสารว่า พวกเขาทราบรายละเอียดเกี่ยวกับชาวซาอุดีอาระเบียที่เดินทางเข้าแคนาดา แต่ถูกผลักดันกลับที่สนามบิน จากแหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองของชาติตะวันตก กับนักสืบเอกชน
ราว 2 สัปดาห์หลังจากนายคาชอกกี ถูกสังหาร ในวันที่ 2 ต.ค. 2561 ชาวซาอุดีอาระเบีย 15 คนเดินทางไปถึงท่าอากาศยานนานาชาติออนแทริโอ ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว โดยในกลุ่มนี้มีผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชวิทยาหลายคน ถือกระเป๋าที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทางนิติเวช 2 ใบ ก่อนจะแยกกันเป็น 2 กลุ่มเพื่อผ่านด่านศุลกากร แต่เจ้าหน้าที่เกิดสงสัยว่า ทั้ง 2 กลุ่มเดินทางมาด้วยกันและมีภาพเป็นหลักฐาน ทั้งหมดจึงถูกกักอยู่ที่สนามบิน
หลังจากเจ้าหน้าที่สถานทูตซาอุดีอาระเบียเดินทางมาเพื่อเจรจา สมาชิกในทีมเกือบทั้งหมดก็ตกลงเดินทางกลับซาอุดีอาระเบีย ขณะที่มี 1 คนได้เข้าแคนาดาด้วยพาสปอร์ตทูต นายอัล จาบรี กล่าวหาด้วยว่า ภารกิจลอบสังหารเขากำกับดูแลโดยนายซาอุด อัล-คาห์ตานี ผู้ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรฐานวางแผนและสังหารนายคาชอกกี โดยผู้คิดแผนคือนาย อาห์เหม็ด อัล-อัสซีรี ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่วงในของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด ที่ถูกปลดหลังนายคาชอกกีถูกฆาตกรรม
ดร.อัล จาบรี ระบุด้วยว่า แม้ทีมลอบสังหารเข้าสู่แคนาดาเพื่อสังหารเขาไม่สำเร็จ แต่เขาเชื่อว่าภารกิจยังดำเนินต่อไป พร้อมกับกล่าวหาเจ้าชายโมฮัมเหม็ดว่า พยายามใช้หนทางอื่นในการเข้าถึงตัวเขาในแคนาดา รวมทั้งการส่งเจ้าหน้าที่ข้ามชายแดนสหรัฐฯ จากภาคพื้น
อนึ่ง ซีเอ็นเอ็นระบุว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย, สถานทูตซาอุฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี และกองทุน MiSK ของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ ขณะที่ เอฟบีไอ กับสำนักงานข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
อ่านเพิ่มเติม...
August 07, 2020 at 06:35AM
https://ift.tt/3ke86TY
มกุฎราชกุมารซาอุฯ ถูกกล่าวหา ส่งทีมสังหารหวังกำจัด จนท.ลี้ภัยในแคนาดา - ไทยรัฐ
https://ift.tt/2Uh2hK9
Bagikan Berita Ini
0 Response to "มกุฎราชกุมารซาอุฯ ถูกกล่าวหา ส่งทีมสังหารหวังกำจัด จนท.ลี้ภัยในแคนาดา - ไทยรัฐ"
Post a Comment